เว็บไซต์นี้ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเปิดใช้งาน JavaScript

หากต้องการรับชมเนื้อหาและฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของเว็บไซต์
กรุณาเปิดใช้งาน JavaScript ในเบราว์เซอร์ของท่าน

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ทำธุรกิจยุคนี้ ต้องมีเว็บไซต์ไหม? หรือแค่โซเชียลมีเดียก็พอ?

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว ธุรกิจจำนวนมากหันมาใช้ Facebook, Instagram, TikTok หรือ Line OA เป็นเครื่องมือหลักในการขายสินค้าและบริการ แต่คำถามคือ ”ถ้ามีแค่โซเชียลมีเดียเพียงพอหรือไม่?” หรือ ”ธุรกิจยุคนี้ยังจำเป็นต้องมีเว็บไซต์อยู่ไหม?”

 

ทำธุรกิจยุคนี้ ต้องมีเว็บไซต์ไหม หรือแค่โซเชียลมีเดียก็พอ

ทำธุรกิจยุคนี้ ต้องมีเว็บไซต์ไหม? หรือแค่โซเชียลมีเดียก็พอ?

 

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว ธุรกิจจำนวนมากหันมาใช้ Facebook, Instagram, TikTok หรือ Line OA เป็นเครื่องมือหลักในการขายสินค้าและบริการ แต่คำถามคือ "ถ้ามีแค่โซเชียลมีเดียเพียงพอหรือไม่?" หรือ "ธุรกิจยุคนี้ยังจำเป็นต้องมีเว็บไซต์อยู่ไหม?"

วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ข้อดีของการมีเว็บไซต์ และว่าทำไมมันอาจเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในระยะยาว


1. เว็บไซต์ = ร้านค้าของคุณแบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง

เว็บไซต์เปรียบเสมือน หน้าร้านออนไลน์ ที่เปิดให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมและสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24/7 โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ต่างจากโซเชียลมีเดียที่อาจมีข้อจำกัดเรื่องระบบการสั่งซื้อ หรือการค้นหาสินค้าเก่าๆ

ตัวอย่าง:

  • ร้านค้าบน Facebook อาจโพสต์สินค้าหายไปใน Timeline ลูกค้าต้องเลื่อนหาย้อนหลัง
  • แต่ถ้ามีเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าผ่านเมนูและหมวดหมู่ได้ง่าย

2. เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองทำให้ธุรกิจดู เป็นมืออาชีพมากขึ้น ลูกค้าจะมั่นใจว่าเป็นธุรกิจจริง ไม่ใช่แค่เพจปลอมที่อาจปิดตัวไปเมื่อไหร่ก็ได้

 ตัวอย่าง:

  • เว็บไซต์สามารถใส่ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท, รีวิวลูกค้า, นโยบายการคืนสินค้า และรายละเอียดการติดต่อ
  • โซเชียลมีเดียอาจสร้างการเข้าถึงได้ง่าย แต่ขาดความน่าเชื่อถือในบางมุม

3. ควบคุมแพลตฟอร์มได้ 100% (Social Media ไม่ได้เป็นของเรา!)

ถ้าธุรกิจพึ่งพาแต่ Facebook หรือ Instagram คุณอาจถูกปิดบัญชี โดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรืออัลกอริธึมอาจเปลี่ยนแปลงทำให้ยอดขายตก

 ตัวอย่าง:

  • หลายธุรกิจเคยถูกปิดบัญชี Facebook Ads หรือถูกบล็อกไม่ให้เข้าถึงเพจหลัก
  • แต่ถ้ามีเว็บไซต์ คุณจะควบคุมข้อมูลลูกค้า, ระบบอีคอมเมิร์ซ และระบบจัดการต่างๆ ได้เอง

4. เว็บไซต์ช่วยให้ติด SEO (ลูกค้าค้นหาเราเจอบน Google)

ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าค้นหาสินค้าของคุณบน Google แล้วเจอแต่คู่แข่งที่มีเว็บไซต์ คุณอาจเสียโอกาสทางธุรกิจไปโดยไม่รู้ตัว

 ตัวอย่าง:

  • ถ้ามีเว็บไซต์ที่ทำ SEO ดี ลูกค้าค้นหา "รองเท้าผ้าใบแฟชั่น" แล้วเจอเว็บของคุณเป็นอันดับแรก
  • แต่ถ้าคุณมีแค่ Facebook ลูกค้าต้องพิมพ์ชื่อเพจตรงๆ เท่านั้นถึงจะเจอ

5. สร้างระบบ "เก็บลูกค้า" เพื่อทำการตลาดระยะยาว

เว็บไซต์ช่วยให้คุณเก็บ อีเมล, เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาทำการตลาดซ้ำได้ เช่น ส่งโปรโมชั่น, ส่วนลด, ข่าวสาร ฯลฯ ต่างจากโซเชียลมีเดียที่คุณไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้โดยตรง

 ตัวอย่าง:

  • ระบบ E-mail Marketing ส่งโปรโมชั่นให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ
  • การทำ Pixel Tracking เพื่อยิงโฆษณาซ้ำไปหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

6. เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจดู "ใหญ่" ขึ้น (แม้จะเป็น SME)

แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์ ธุรกิจจะดูเป็นทางการและมีมาตรฐานมากขึ้น ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและมีแนวโน้มจะซื้อสินค้ามากกว่า

 ตัวอย่าง:

  • ธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ที่มีเว็บของตัวเอง มักดูดีกว่าธุรกิจที่ขายผ่าน Facebook เพียงอย่างเดียว
  • เว็บไซต์ช่วยให้คุณสามารถสร้าง Branding ของตัวเองได้ ไม่ต้องแข่งกับเพจอื่นบนโซเชียล

สรุป: เว็บไซต์ + โซเชียลมีเดีย = การตลาดที่แข็งแกร่งที่สุด!

- ใช้โซเชียลมีเดีย สร้างกระแส ดึงดูดลูกค้าใหม่
- ใช้เว็บไซต์ ปิดการขาย สร้างความน่าเชื่อถือ และเก็บข้อมูลลูกค้า

"ธุรกิจยุคนี้ การมีแค่โซเชียลมีเดียอาจเพียงพอในระยะสั้น แต่ถ้าคิดถึงการเติบโตระยะยาว เว็บไซต์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้!"

คุณมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของคุณแล้วหรือยัง? ถ้ายัง เริ่มต้นวันนี้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางธุรกิจในอนาคต!




หากต้องการจัดทำเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น ทำเสร็จใน 1 วัน หรือ สามารถติดต่อทีมงานของเราได้ที่
Line : @dott
"ทำเว็บไซต์ นึกถึงดอทเว็บไซต์"


บทความที่เกี่ยวข้อง

ข่าวสารทั่วไป
13/02/2025 14:49
ปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถดำเนินการขายได้อย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่เจ้าของร้านไม่ได้ออนไลน์ ระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจสามารถรองรับคำสั่ง
ข่าวสารทั่วไป
13/02/2025 14:35
Online Timing หรือ ”เวลาออนไลน์” เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อและใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ และบริการสตรีมมิ่ง แนวคิดนี้มีความสำคัญต่อทั้งธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไป เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและจัดการเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ข่าวสารทั่วไป
13/02/2025 14:47
ในปี 2025 การค้าออนไลน์ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว